แนะนำ 3 อุตสาหกรรม SME ไทยมีศักยภาพส่งออก
ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา (Democratic Socialist Republic of Sri Lanka) เป็นเกาะที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในมหาสมุทรอินเดีย ด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายและทรัพยากรธรรมชาติอันโดดเด่น แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจจากวิกฤตหนี้และการฟื้นตัวจากโควิด-19 แต่ตลาดศรีลังกายังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้ายางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป รวมถึงสิ่งทอและผ้าถัก ซึ่ง SME ไทยมีจุดแข็งด้านคุณภาพสินค้าและศักยภาพการผลิตที่ตอบสนองความต้องการของตลาดศรีลังกาได้เป็นอย่างดี บทวิเคราะห์ฉบับเต็มนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกพร้อมชี้แนวทางการเข้าสู่ตลาดศรีลังกาอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายธุรกิจไปยังตลาดสำคัญแห่งนี้
แนวโน้มอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางของศรีลังกาในช่วงปี 2567–2569 มีทิศทาง ผสมผสานระหว่างโอกาสและความท้าทาย ศรีลังกายังคงเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ยางรายสำคัญใน เอเชียใต้ โดยเฉพาะยางล้อและถุงมือยางที่มีตลาดหลักอยู่ในยุโรปและอเมริกา ซึ่งสร้างรายได้กว่า 1 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 แต่ปัญหาภายในประเทศ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และข้อจำกัด ในการลงทุน ทำให้ภาคการผลิตชะลอตัวบางช่วง ขณะที่สถานการณ์โลกกลับเอื้อต่อการเติบโต โดยเฉพาะ ราคายางที่พุ่งสูงจากภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวยในประเทศผู้ผลิตหลักและการขาดแคลนยางต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่ง สร้างโอกาสในการส่งออกของศรีลังกาในระยะสั้นถึงกลาง หากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้าง ความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะกับประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบอย่างไทย จะช่วยให้ศรีลังการักษา ความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของศรีลังกามีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในช่วงปีที่ผ่านมา โดย ภาคเกษตรกรรมมีการเติบโต 2.5% ในปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตที่ดีขึ้นของข้าว ผลไม้ ผักและเครื่องเทศ แม้จะมีสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยบ้างก็ตาม สำหรับการผลิตข้าวในฤดูกาล 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ ระดับเฉลี่ย 4.8 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าระดับที่ลดลงในปีก่อนหน้า ในภาคการประมง การผลิตปลาเพิ่มขึ้น 19.0%ในเดือนมิถุนายน 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมการประมงทางทะเลเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการบริโภคปลาคาดว่าจะลดลงเล็กน้อย โดยคาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 409,000 เมตริกตันภายในปี 2571 จาก ประมาณ 416,000 เมตริกตันในปี 2566 นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋อง อาหารแห้ง ในศรีลังกามีการกระจุกตัวสูง โดยมีดัชนี Herfindahl-Hirschman Index (HHI) อยู่ที่ 7,433 ในปี 2566 ซึ่งบ่งชี้ว่ามีผู้เล่น หลักไม่กี่รายครองตลาด อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม
อุตสาหกรรมสิ่งทอและผ้าถักของศรีลังกามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการ เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ความต้องการผ้าถัก แบบนิตหรือโครเชต์ (HS60) ผ้าถักคุณภาพสูง (HS6002) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มผ้าที่มี คุณสมบัติเฉพาะ เช่น ผ้ายืดหยุ่น แห้งเร็วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับกับเทรนด์การผลิตสิ่งทออย่าง ยั่งยืน ขณะที่ศรีลังกายังต้องพึ่งพาการนำเข้าผ้าถักจากต่างประเทศ ทำให้ไทยมีโอกาสขยายการส่งออกผ้าถัก คุณภาพสูงเข้าสู่ตลาดศรีลังกา หากสามารถพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่และแข่งขันด้านคุณภ าพได้ อย่างเหมาะสม
ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์เป็นข้อมูลในช่วงปี 2019-2023
อัปเดตข้อมูลล่าสุด : 01-10-2025