จากการประมวลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติและแนวโน้มต่างๆ ด้านการตลาดต่างประเทศ ถึงประเด็นที่มีผลกระทบต่อ SME ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าด้วยเครื่องมือ STEEP Analysis นั้น พบว่าหลังวิกฤตการณ์ COVID-19 ฉากทัศน์ในบริบท 5 ด้านหลักที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยทางด้านสังคมและวัฒนธรรม (Sociocultural) ปัจจัยทางด้านเทคโนโลยี (Technology) ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ (Economic) ปัจจัยทางด้านระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม (Ecological and Environmental) และปัจจัยทางด้านการเมือง (Political) เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในโลกของ VUCA World ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความปัจเจกเฉพาะกลุ่ม และมีความเร่งด่วนในการตอบสนองหรือที่เรียกว่า Gen Now อันเกิดจากความทันสมัยและพัฒนาการที่รวดเร็วของเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ หรือปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อแบรนด์ที่คำนึงถึงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยลำดับต้น ๆ หรือปัจจัยทางด้านการเมืองระหว่างประเทศที่ไม่เพียงจะเกิดผลกระทบจากสงคราม แต่ยังส่งผลกระทบต่อต้นทุนและข้อจำกัดด้านทรัพยากรการผลิตในสายโซ่อุปทานของแบรนด์รายใหญ่ระดับโลก หรือการเข้าถึงลูกค้าและคู่ค้าของประเทศคู่ขัดแย้งต่าง ๆ

      การปรับตัวของผู้ประกอบการ SME ในระยะ 3-5 ปี ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของรับจ้างผลิตหรือมีแบรนด์เป็นของตัวเอง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หัวใจสำคัญ คือ การปรับกระบวนการผลิตและการออกแบบสินค้าและบริการให้สอดรับกับมาตรฐานและมาตรการทางกฎหมายของแต่ละประเทศคู่ค้า อันเกิดจากหลักการด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนเป็นหลัก ในขณะเดียวกันกิจกรรมทางด้านการตลาดนั้น จำเป็นต้องปรับลดต้นทุนสินค้า ด้วยการนำเครื่องมือเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เหมาะกับประเภทและขนาดธุรกิจ หรือลดขนาดของบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับลักษณะครอบครัวและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง ในขณะที่จำเป็นต้องหาลูกค้ากลุ่มใหม่ผ่านช่องทางและเครื่องมือแพลทฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น